ช่วงที่ผ่านมา จู่ๆ ก็มีกระแสข่าวปลอมที่แชร์ผ่านไลน์และโซเชียลอื่นๆ อย่างหนักหน่วงในประเด็น ‘น้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็ง’ จนเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเกิดความสงสัยว่า น้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็ง ได้จริงหรือไม่ ? เพราะมีหลายคนมากที่หลงเชื่อและทำตามวิธีนี้ โดยเฉพาะในหมู่คนที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
วันนี้มาไขคำตอบเรื่องนี้ไปกับ Rabbit Care เราก็จะขอตอบกันตรงนี้ก่อนไปดูประเด็นอื่นเลยว่า ‘มะนาวโซดารักษาโรคมะเร็งไม่ได้จริง’ สิ่งนี้เป็นข้อมูลเท็จ ห้ามหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อระบบทางเดินอาหาร และมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้
ชวนดู 4 อันตรายจากความเชื่อ น้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็ง
1. ระบบทางเดินอาหารมีปัญหา
อย่างที่บอกว่าน้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็งไม่ได้ ยิ่งถ้าดื่มตอนท้องว่าง หรือดื่มในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบทางเดินอาหารตามมา เช่น อาการรู้สึกไม่สบายท้อง ปวดท้อง หน่วงท้อง ตลอดจนอาจเกิดภาวะกรดไหลย้อนเพราะในท้องมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เยอะ และตีขึ้นสู่หน้าอก รวมถึงอาจเกิดการระคายเคืองเยื่อบุในระบบทางเดินอาหารอีกด้วย
2. อ้วกเป็นเลือด
นอกจากน้ำมะนาวโซดาจะรักษาโรคมะเร็งไม่ได้แล้ว ในกรณีที่ดื่มมากไป อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ เพราะสารในน้ำมะนาวและโซดามีฤทธิ์เป็นกรดทั้งคู่ จึงสามารถทำลายเนื้อเยื่อของกระเพาะได้ ถึงแม้ว่าเนื้อเยื่อจะมีความแข็งแรง และมีกลไกป้องกันตัวเองก็ตาม แต่ถ้าดื่มเยอะก็จะถูกกัดจนกระเพาะบาง จนทำให้มีเลือดออกในทางเดินอาหารนั่นเอง เพราะฉะนั้นห้ามดื่มแบบมีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้เด็ดขาด
3. มีแนวโน้มเป็นเก๊าต์เพิ่มขึ้น 2 เท่า
ผลการวิจัยพบว่าผู้หญิงที่ดื่มโซดาในปริมาณมาก หรือ 2 กระป๋องขึ้นไปต่อวัน จะมีแนวโน้มเป็นเก๊าต์เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ในขณะผู้หญิงที่ดื่มโซดา 1 กระป๋องต่อวันมีโอกาสเสี่ยงเป็นเก๊าต์เพิ่มขึ้นถึง 74% นอกจากจะเห็นได้ว่าน้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็งไม่ได้จริงแล้ว ยังเสี่ยงให้เกิดโรคเก๊าต์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
4. ทำให้ไตและปอดทำงานหนัก
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อน้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็งแพร่หลายอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเพราะรสชาติที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเป่า แต่รู้หรือไม่ว่าถ้าเผลอดื่มมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ ถึงแม้ว่ารสเปรี้ยวของมะนาวจะช่วยขับน้ำลายออกมาให้รู้สึกชุ่มคอก็ตาม เพราะในโซดามีก๊าซเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังกระตุ้นให้ไตและปอดทำงานหนัก จึงอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
ไม่เพียงเท่านี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ยังได้ออกมาเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อข้อมูลเท็จที่ว่าน้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็งได้จริง เพราะนอกจากอันตรายที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อผิดๆ ที่อาจส่งผลอันตรายแก่ผู้อื่น ซึ่งในขณะเดียวกันน้ำมะนาวโซดากลับไปมีประโยชน์ในเรื่องทำให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการเจ็บคอเสียมากกว่า ในกรณีที่ดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น
สำหรับการดูแลรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันนี้ ยังเป็นการใช้เคมีบำบัดเป็นหลัก ยังไม่มีการใช้สูตรน้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็ง หรือยังไม่มีอาหาร-เครื่องดื่มประเภทไหนที่รักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้ แต่ถ้าอยากดูแลเรื่องอาหารการกินของผู้ป่วยโรคมะเร็ง สามารถเริ่มได้จากอาหารการกินที่มีประโยชน์ และผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อสร้างสมดุลภายในร่างกายให้ลดความเจ็บปวดลง
บทสรุปของน้ำมะนาวโซดารักษาโรคมะเร็ง ย้ำกันอีกครั้งว่า ‘ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด’ กล่าวง่ายๆ คือ ในน้ำมะนาว มีส่วนประกอบหลักเป็น ‘กรดซิติก’ ซึ่งเป็นกรดอ่อน มีรสเปรี้ยว ส่งผลกระตุ้นน้ำลายออกมาให้ชุ่มคอเท่านั้น ส่วนน้ำโซดา ถูกอัดแน่นไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีความเป็นกรดเช่นเดียวกับกรดซิตริก ดังนั้นหากดื่มเยอะเกินไป จะส่งผลเสียต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะจุดของกระเพาะอาหาร เกิดเป็นอาการไม่สบายท้อง เยื่อบุทางเดินอาหารระคายเคือง ตลอดจนมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นภาวะกรดไหลย้อนนั่นเอง
อย่างที่ทราบกันว่าโรคมะเร็ง เป็นโรคที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะในปัจจุบันยังหาทางรักษาให้หายขาดไม่ได้ และยังเป็นโรคที่ใช้ค่ารักษาพยาบาลสูง มาเตรียมรับมือปัญหาสุขภาพที่ไม่คาดฝันไปกับ Rabbtit Care แหล่งรวม ‘ประกันสุขภาพ’ ตั้งแต่อาการเจ็บป่วยทั่วไป โรคทั่วไป ตลอดจนโรคร้ายอย่างมะเร็ง โดยคุณสามารถเลือกดูแผนประกันสุขภาพที่เหมาะกับตัวเองได้ที่เว็บไซต์ https://rabbitcare.com/ หรือโทร. 1438 ฝ่ายบริการลูกค้าที่พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง